วันอังคารที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2560

Koenigsegg CCX

สารภาพตามตรงครับ ว่าตอนที่รถ 2 คันนี้โผล่ออกมาตอนท้ายเรื่อง ผมก็สังเกตรายละเอียดแทบไม่ทันเหมือนกัน ว่าแท้ที่จริงแล้ว มันเป็นรถรุ่นไหนกันแน่ เพราะมาแบบแว๊บๆ จริงๆ จอดไกลๆ แบบนี้ ยี่ห้อน่ะพอเดาออก แต่ชื่อรุ่นนี่สิ ยากจะฟันธง เพราะรถ Koenigsegg นี่หน้าตามันคล้ายๆ กันเหลือเกิน

baKoenigsegg ถูกพัฒนาต่อกันมาเรื่อยๆ ทุก 2 ปี เลยไม่รู้ว่าแต่ละคันเป็น ไมเนอร์เชจน์ หรือ โมเดลเชนจ์ กันแน่ ถ้าไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้คงจะลำบาก สุดท้ายมาสะดุดตอนที่ตา โรมัน ปากหวาน เอามาคุยว่ามีแค่ 4 คันในโลก ก็เลยพอจะเดาได้คร่าวๆ แต่ก็ยังสับสนอยู่เหมือนกัน เพราะหนังเรื่องนี้โม้เอาการกับฉากแอ็คชั่น เรียกว่าทำให้ดูเอามันส์ คนดูก็อย่าไปซีเรียสมาก พอถึงเรื่องข้อมูลความจริงก็เลยชักไม่เชื่อใจ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว ทีมงานเขาทุ่มเทเรื่องข้อมูลมาก

baเอาเป็นว่าพอตั้งสติได้ก็ต้องเชื่อครับ ว่าเจ้า Koenigsegg CCXR Edition รุ่นนี้มันมีแค่ 4 คันจริงๆ ราคา 2.13 ล้านดอลลาร์ อันนี้หนังไม่ได้ล้อเล่น บางคนสับสนว่ามันมี 6 คัน นั่นก็เพราะไปนับเอา CCX Edition ราคาคันละ 2 ล้านดอลลาร์ ที่ผลิตแค่ 2 คันเข้าไปด้วย ซึ่งรุ่น Edition นี้หมายถึง Limited Edition หรือ Special Edition ที่ปรับโน่นนิด แต่งนี่หน่อย เช่น ล้อคาร์บอนน้ำหนักเบาเพียง 3 กก. สปอยเลอร์หน้าและหลัง รวมถึงเบรกคาร์บอนเซรามิค (รวมๆ ก็เยอะเหมือนกัน) นั่นเอง
 
Koenigsegg CCXR Edition
 
baKoenigsegg ก่อตั้งบริษัทในปี 1994 โดยเจ้าของตั้งเป้าไว้ว่า จะผลิตซูเปอร์คาร์ที่เร็วที่สุดในโลกให้ได้ หลังจากพัฒนาอยู่ 4 ปี จึงเปิดตัวซูเปอร์คาร์คันแรกในปี 1998 คือ CC และเมื่อโมเดลเชนจ์เป็น CC8S ในปี 2002 ความฝันจึงกลายเป็นจริง เมื่อ CC8S สามารถล้มแชมป์อย่าง McLaren F1 ที่ครองตำแหน่งมานานถึง 12 ปีลงได้ (ความเร็วทดสอบจริง 386.7 กม./ชม.) ด้วยสถิติความเร็ว 389 กม/ชม. (คำนวณในกระดาษ)

baอีก 2 ปีถัดมา ในปี 2004 CCR ซูเปอร์คาร์ตัวใหม่ที่พัฒนาต่อเนื่องมาจากรุ่น CC8S จึงสามารถครองตำแหน่งได้อย่างสง่าผ่าเผย ด้วยสถิติความเร็วทดสอบจริง 387.37 กม./ชม. แต่สุดท้ายก็ต้องมาเสียตำแหน่งเจ้าความเร็วให้ Bugatti Veyron ในปี 2006 ที่ใช้เครื่องขนาดยักษ์ 8 ลิตร 16 สูบ 1200 แรงม้า ทำความเร็วไว้ 407.5 กม./ชม. จนวันนี้ก็ยังไม่มีใครแซงได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น